news

6 พฤศจิกายน 2020

“ทิพานัน”ซัด”ปิยบุตร”ผิด ม.116 ชัดมาก”ยุยง ปลุกปั่น”

“ทิพานัน”ซัด”ปิยบุตร”เลิกตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ ท่องคาถูก”กลั่นแกล้ง” ยก ม.116 ชี้ชัด”ยุยงปลุกปั่น” เชื่อ ปชช.จะให้บทเรียน “อีแอบ”ผ่านศึกเลือกตั้ง อบจ.

 

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวหาว่าการถูกออกหมายเรียก พร้อมด้วยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและน.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า เป็นการกลั่นแกล้งและจำกัดสิทธิการแสดงออกทางการเมือง โดยทั้ง 3 คนไม่ได้กระทำการใดๆที่เข้าข่ายมาตรา 116 ว่า นายปิยบุตรก็ยังคงแผ่นเสียงตกร่อง ท่องแต่คำว่า “ถูกกลั่นแกล้ง”อยู่เสมอจนประชาชนเขารู้ทันกันทั้งประเทศแล้ว ฉะนั้น ขอให้เลิกตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ เพื่อเรียกคะแนนสงสารเสียที โดยขอให้นายปิยบุตรมีความกล้าหาญแอ่นอกรับความผิด โดยขอให้ไปเปิดดูกฎหมาย มาตรา 116 ดูก็จะรู้อยู่แก่ใจ เพียงแต่จะสำนึกหรือไม่ หรือว่าจะตะแบงไปเรื่อยๆ

 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า  ทั้งนี้ สาระสำคัญกำหนดเอาไว้ว่า มาตรา 116 ผู้ใดกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอัน มิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1)เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กําลังข่มขืนใจ หรือใช้กําลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อ ความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินเจ็ดปี ดังนั้นสรุปได้ว่า มาตรา116 คือใครก็ตามที่บอก เขียน หรือทำวิธีอื่นๆ เพื่อให้กฎหมายเปลี่ยนแปลง ขัดขืนอำนาจรัฐ หรือทำให้คนจำนวนมากทำผิดกฎหมาย อาจเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายนี้ ซึ่งบางครั้งเรียกว่าความผิดฐานยุยง ปลุกปั่น

 

“ที่ผ่านแม้นายปิยบุตร นายธนาธร และน.ส.พรรณิการ์ ไม่ได้เปิดหน้าไปปราศรัยบนเวทีของกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ก็เขียนบทความผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย การไปปาฐกถาตามที่ต่างๆ ในทิศทางที่ยุยงส่งเสริมและชี้นำกลุ่มผู้ชุมนุมต่างกรรมต่างวาระกันและเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมมีความชัดเจนจากข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน นายปิยบุตรเก็บอาการไม่อยู่ รีบออกมาพูดเรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการปฏิรูปสถาบันใช่หรือไม่” น.ส.ทิพานัน กล่าว

 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า แกนนำและกลุ่มเยาวชนที่สนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมคงได้เห็นแล้วว่า นายปิยบุตร และพวกพยายามลอยตัวอยู่เหนือปัญหา  รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ยอมลงมาเปลืองตัว แต่ทำท่าทียุให้คนอื่นกระทำความผิด ในขณะที่แกนนำต่างเดินเข้าออกคุก ซึ่งเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ เริ่มมองเห็นถึงความอำมหิตของกลุ่มนักการเมืองเหล่านี้ ที่ทำตัวคล้ายเป็นอีแอบ ส่งเด็กไปตายแทน แล้วตัวเองเสวยสุข ฉะนั้นเชื่อว่า ประชาชนจะให้บทเรียนคนเหล่านี้  ซึ่งอาจจะผ่านการเลือกตั้ง นายก อบจ. และส.จ. ในครั้งนี้ก็เป็นไปได้

 

ที่มา https://www.dailynews.co.th/politics/805184