ครม.แนะลดความรุนแรงในครอบครัว ย้ำช่องแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านไลน์OA “ESS Help Me” สายด่วน 1300

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ว่า ที่ประชุมครม. มีมติรับทราบรายงานข้อมูลสถานการณ์ด้านความรุนแรงในครอบครัว ประจำปี 2563 และ 2564 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามบทบัญญัติมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
4. ข้อมูลคดีตามระบบฐานข้อมูลความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว (www.violence.in.th) พบว่า ในปี 2563 มีการช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 1,840 เรื่อง ประกอบด้วย การระงับเหตุและสอบถามผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัว/ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว มากที่สุด จำนวน 535 ราย รองลงมาคือการจัดให้ได้รับคำปรึกษาแนะนำจากจิตแพทย์ นักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์ จำนวน 477 ราย และการจัดให้ได้รับการเข้ารักษาจากแพทย์ จำนวน 306 ราย และสำหรับปี 2564 มีการช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 1,932 เรื่อง ประกอบด้วย การระงับเหตุและสอบถามผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัว/ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว มากที่สุด จำนวน 578 ราย รองลงมาคือการจัดให้ได้รับคำปรึกษาแนะนำจากจิตแพทย์ นักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์ จำนวน 520 ราย และการจัดให้ได้รับการเข้ารักษาจากแพทย์ จำนวน 305 ราย
นอกจากนี้ ข้อมูลสถานการณ์ครอบครัวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่า ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ครอบครัวไทย ในปี 2563 เรื่องที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ การขาดรายได้/รายได้ลดลง ร้อยละ 89.38 รองลงมา ตกงาน/ไม่มีงานทำ ร้อยละ 25.54 และมีหนี้สินเพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.55 ตามลำดับ และในปี 2564 เรื่องที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ มีรายได้ลดลง ร้อยละ 63.40 รองลงมา สุขภาพจิตเสื่อมโทรม ร้อยละ 54.19 และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ร้อยละ 47.03 ตามลำดับ โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว 3 อันดับแรก คือ รายได้ลดลง/รายได้ไม่เพียงพอ/ไม่มีรายได้ รองลงมา ความเครียดจากการทำงาน และภาระหนี้สิน ตามลำดับ
ส่วนบทวิเคราะห์สถานการณ์ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว และข้อเสนอแนะเชิงมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และต่อการดำเนินงานตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ในปี 2564 โดยสืบเนื่องถึงปี 2565 ได้แก่ การเสริมสร้างกลไกเครือข่ายในการดำเนินงานป้องกัน และแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวการเสริมสร้างกลไกพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 การปรับปรุงกระบวนงานในการคุ้มครองช่วยเหลือผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว การเสริมสร้างมาตรการในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว การเสริมสร้างกลไกเครือข่ายด้านความรุนแรงในครอบครัว การปรับปรุงกฎหมายป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและการสร้างทัศนคติ ความรู้ความเข้าใจต่อประชาชนเพื่อยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว
“เพื่อลดและยุติความรุนแรงในครอบครัว ประชาชนที่พบเห็นเหตุการณ์ เหตุฉุกเฉิน และ/หรือได้รับความเดือดร้อนจากเหตุดังกล่าว สามารถร้องทุกข์ปัญหาและเหตุความรุนแรงทางสังคม ผ่านระบบไลน์ OA “ESS Help Me” หรือติดต่อสายด่วน พม. 1300 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานตำรวจและทีมสหวิชาชีพของกระทรวงฯ เข้าช่วยเหลือเหยื่อได้ทันที” น.ส.ทิพานัน กล่าว