01 ก.ย.2564 – น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรกของการอภิปรายว่า รู้สึกผิดหวังกับฝ่ายค้านที่มาตรฐานต่ำกว่าที่คาดได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านประกาศจะยกระดับการอภิปรายเน้นที่พยานหลักฐานชัดเจนในระดับดำเนินคดีได้ แต่เท่าที่ดูมีแต่งานมโนกล่าวหาและจินตนาการ ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สามารถชี้แจงได้ชัดเจนทุกประเด็น โดยเฉพาะการใช้งบประมาณในการแก้ไขสถานการณ์โควิด ทำให้งบกลางเพิ่มสูงขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการแก้ไขสถานการณ์โควิด ดูแลสุขภาพประชาชนและพยุงระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการเพิ่มงบฯเป็นพิเศษ แต่เป็นการใช้จ่ายตามระเบียบของสำนักงบประมาณ ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริตเหมือนรัฐบาลก่อนๆ
อย่างเมื่อวานนี้ที่กรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางสิงหาคมนั้น เชื่อว่ามีการปั้นตัวเลข เพราะมีการตรวจน้อยลง ส่งผลให้พบผู้ติดเชื้อน้อยลงไปด้วยนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จะเห็นว่า นพ.ชลน่าน ยอมรับเองว่า การอภิปรายมาจากพื้นฐานของความเชื่อ โดยไม่ได้มีข้อมูลหลักฐานและเอกสารใดๆ มายืนยันพิสูจน์ความเชื่อ ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงคือการตรวจโควิดไม่ได้ลดน้อยลง เห็นได้ชัดเจนในพื้นที่กรุงเทพมหานครยังคงเปิดให้บริการตรวจโควิดเชิงรุกประชาชนอย่างต่อเนื่อง และจากการที่ตนได้ลงพื้นที่มาตลอดและติดตามการตรวจเชิงรุกในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พบว่าสถิติว่าประชาชนเข้ารับบริการช่วงกรกฎาคม 100 คนจะพบผู้ติดเชื้อประมาณ 20-30 คน แต่ระยะหลังมานี้เข้ารับบริการตรวจ 100 คน พบผู้ติดเชื้อเพียง 10-15 คนเท่านั้น และทุกการตรวจหากพบเชื้อศูนย์บริการสาธารณสุขต่างๆ จะรายงานยอดผู้ติดเชื้อเท่าจำนวนที่ตรวจเจอ ซึ่งช่วงหลังพบว่ายอดลดลงมาต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ประชาชนติดเชื้อน้อยลง เป็นสัญญาณที่ดีตอบรับมาตรการของ ศบค. ดังนั้นจึงควรจะดีใจ ไม่ใช่กล่าวหาความเชื่อส่วนตัวว่าเพราะตรวจน้อยลง และที่สำคัญเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงไว้ในการอภิปรายว่า การปกปิดยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และยอดผู้เสียชีวิต ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากต้องรายงานองค์กรต่างประเทศด้วย
“เท่าที่ติดตามฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านแล้วไม่พบหลักฐานที่มีน้ำหนัก มีแต่สำนวนโวหารรุนแรงเพื่อความสะใจ และใช้เอกสารจากการพาดหัวข่าวมาเรียงแปะอภิปราย มิได้มีข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากการปรักปรำที่ไร้หลักฐาน ที่สะท้อนให้เห็นความล้มเหลว มีแต่ราคาคุย ที่อาศัยเนื้องานของสื่อมวลชนมาอภิปรายเท่านั้น ในขณะที่ผู้อภิปรายหลายคน ใช้ถ้อยคำหยาบคาย เสียดสีใส่ร้าย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในฐานะผู้ทรงเกียรติอีกด้วย” น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามหวังว่าผู้นำฝ่ายค้านจะตระหนักในเรื่องนี้ เร่งปรับปรุงแก้ไขให้การอภิปรายในวันนี้ และวันต่อๆ ไป ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของของสภาเสื่อมเสีย และกลับมาอยู่ในกรอบของการให้ความสำคัญกับความโปร่งใส ตรวจสอบได้ของพยานหลักฐานในการอภิปราย อย่าให้ประชาชนคิดว่าพฤติกรรมนี้เป็นการตีหัวเข้าบ้านของฝ่ายค้านอันธพาลเอาได้